วันอาทิตย์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปย่อปรัชญาการศึกษา


1. ปรัชญาสารัตนนิยม (essentialism)  ปรัชญานี้มาจากการผสมผสานระหว่าง ปรัชญาจิตนิยม กับปรัชญาสัจนิยมรู้จักสร้างวินัยในตนเอง ครูเป็นผู้ให้ นักเรียนเป็นผู้รับ หลักสูตรเน้นเนื้อหาวิชา และหลักสูตรสหสัมพันธ์ วิธีสอนให้นักเรียนมุ่งรับรู้และจดจำ ใช้การปาฐกถา

 2. ปรัชญานิรันตรนิยม (pernialism)   มุ่งไปที่คุณงามความดีอันสูงสุด ที่ไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดการพัฒนาปัญญาเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ของมนุษย์ทโรงเรียนส่งเสริมผู้เรียนให้รู้จักคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรม เน้นระเบียบวินัย ผู้สอนเป็นศูนย์กลาง ใช้วิธีการบรรยายในการรับรู้ จดจำ

3.ปรัชญาพิพัฒนาการนิยม (progressivism)   มุ่งพัฒนาบุคลิกภาพของเด็ก ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาของเด็ก ยึดเด็กเป็นศูนย์กลาง จัดหาประสบการณ์ วิธีการแก้ปัญหาเพิ่มความรู้ให้กว้างขวางจะจัดกิจกรรมนอกสถานที่กระตุ้นให้ผู้เรียนรับประสบการณ์ตรง

4.ปรัชญาปฏิรูปนิยม (reconstructionism)   
การเรียนรู้ที่มีค่าต่อเมื่อได้ลงมือปฏิบัติจริงในชีวิตจริงของผู้เรียน ไม่นิยมท่องจำ และครูผู้สอน มีความสามารถสร้างสรรค์สังคมขึ้นมาใหม่และจะไม่ละเลยความสำคัญทางสังคม

5.ปรัชญาอัตถิภาวะนิยม (existentialism)
 มนุษย์เกิดมาเพื่อเสรีภาพพร้อมที่จะเลือกและรับผิดชอบสิ่งที่ตนเลือก การจัดการเรียนการสอน มุ่งที่จะพัฒนาผู้เรียนดึงเอาศักยภาพที่มีอยู่ภายในตัวเองออกมา แสดงออกอย่างอิสระ ครูเป็นเพียงที่ปรึกษานักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติเอง

6.พุทธปรัชญา  
ประยุกต์หรือสร้างปรัชญาตามแนวพุทธธรรม มีการพัฒนาขันธ์ 5 ซึ่งยังมีอกุศลมูลอยู่ จะได้ลดน้อยถอยไป และได้บรรลุถึงชีวิตที่ร่มเย็นตามควรแก่กรณี จัดให้ผู้เรียนได้ประสบกับผู้รู้เป็นแนวทางปฏิบัติที่เรียกว่ามรรค 8 คือ ศีล สมาธิ ปัญญา

ปฏิรูปการศึกษาไทย
คุณภาพการศึกษาไทยที่พบในโลกจริง
-   ท่องจำอย่างเดียวทำให้ไม่เข้าใจ
     -    เด็กไทยอ่านออกเขียนได้ในระดับที่จำกัด
     -    เด็กไทยจำนวนมากไม่มีโอกาสได้เรียนต่อในระดับสูง

     -    บัณฑิตไม่สามารถทำงานได้ ทำงานไม่เป็น เป็นต้น
สิ่งที่ทำให้การศึกษาไทยล้มเหลว
         -    ขาดความรับผิดชอบ
         -    หลักสูตร เน้นท่องจำมากกว่าสอนให้คิดเป็น
         -    รัฐไม่ใส่ใจจัดสรรงบประมาณให้น้อย
         -     เด็กไทยเรียนน้อยเกินไป ทำให้ขี้เกียจ
การพัฒนาการศึกษาของไทย
          ในสมัยก่อนการศึกษาไทยจะมีสถานที่อยู่ตามบ้าน ตามวัด และวัง  
 การศึกษาในบ้านส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงซึ่งการศึกษาจะเน้นการฝึกฝนวิชาชีพการบ้านการเรือนต่างๆ  
   การศึกษาในวัดจะเป็นสถานที่ศึกษาสำหรับผู้ชายซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นหนักไปทางจริยธรรม ภาษาบาลีเพื่อใช้บวชเรียนทางพระพุทธศาสนาต่อไป  
   การศึกษาในวังจะมีการศึกษาที่สูงกว่าที่บ้านละที่วัดแต่จะมีในวงจำกัดแค่พระราชวงศ์และข้าราชการในพระสำนักพระราชวังเท่านั้นมีการสอนภาษาอังกฤษ มีการจัดตั้งโรงเรียนหลวงเพื่อขยายการศึกษาไปสู่ประชาชนส่วนใหญ่ คือ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ 
 การศึกษาไทยในปัจจุบันเป็นการศึกษาที่เปิดกว้างโดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาพัฒนารูปแบบการศึกษา เพื่อให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ในปัจจุบัน

สถานการณ์การศึกษาไทย 2557
     การวิจัยของ PISA ทำให้ทราบถึงการเปรียบเทียบความสามารถทางด้านการคิด การอ่านและคำนวณ ของนักเรียนอายุ 15 ปีทั่วโลก พบว่านักเรียนไทยมีการศึกษาด้อยกว่าสิงคโปร์และเวียดนาม และในวิจัย The World Economic Forum พบว่าการศึกษาไทยด้อยที่สุดในสมาชิกอาเซียน การศึกษาของไทยด้อยและแย่ที่สุด เด็กไทยเพียงแค่ 1 ใน 3 คนที่จะมีโอกาสเข้าโรงเรียนที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานขั้นต่ำ




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น